คุณนรัชฐอิง ทรงกำพล หรือคุณเอ๋ เจ้าของสวนลัคกี้ฟาร์มสเตย์ เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ให้ความสนใจกับการทำเกษตรเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี เป็นการเลี้ยงแบบปล่อยให้เดินเล่นในพื้นที่ธรรมชาติ พร้อมกับประหยัดต้นทุนการเลี้ยงใช้แหนแดงเข้ามาเสริมผสมกับอาหารที่เหลือจากครัวเรือน ไก่ที่เลี้ยงเจริญเติบโตที่ดีและไข่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

กลับบ้านดูแลครอบครัว

ผันตัวสู่การเป็นเกษตรกร

คุณเอ๋ เล่าใฟ้ฟังว่า เดิมทีทำงานเป็นพนักงานขายตรงที่ต้องเดินทางไปทั่วประเทศ แต่ด้วยความที่คุณแม่ไม่ค่อยสบายจึงทำให้ตัดสินใจเลิกจากการทำงานในสายนั้น กลับมาอยู่บ้านเพื่อดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด ซึ่งพื้นเพครอบครัวประกอบอาชีพทางการเกษตรอยู่บ้างแล้ว เธอได้ทดลองทำกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการเกษตรมากขึ้น พร้อมทั้งมีผู้นำชุมชนชักชวนให้เข้าฝึกอบรมในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเกษตร ส่งผลให้เธอได้รับความรู้และนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับใช้ในพื้นที่ของตัวเองทั้งหมด

“แรกๆ ปลูกผักปลอดสารพิษกินเองก่อน หลังจากที่เราได้ไปอบรมมา ทำให้มีความรู้และใส่ใจในเรื่องของการผลิตที่ค่อนข้างปลอดภัย ครั้งแรกที่ทำไม่ได้ใส่ใจเลยว่าจะต้องทำขาย แต่เน้นทำเพื่อให้คนในครอบครัวได้กินอาหารที่ปลอดภัย เพราะเรามองว่าเป็นความสุขมากที่ได้ผลิตสินค้าปลอดภัย จากนั้นพัฒนาจากปลูกผักมาเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี ซึ่งถือว่าตอบโจทย์กับพื้นที่มาก เพราะสามารถปล่อยให้ไก่เดินเล่นคุ้ยเขี่ยได้เอง เลี้ยงแบบอิสระไม่ได้ขังไว้ในเล้า” คุณเอ๋ บอก

กลางวันปล่อยไก่เดินเล่น

กลางคืนให้นอนในโรงเรือน

ในพื้นที่ทั้งหมดรวมทั้งที่พักอาศัยมีอยู่ประมาณ 11 ไร่ คุณเอ๋ บอกว่า ได้แบ่งพื้นที่การเลี้ยงอย่างชัดเจนตั้งแต่การสร้างโรงเรือนนอน ไปจนถึงแปลงหญ้าโล่งๆ ให้ไก่ไข่ได้เดินเล่นหาจิกอาหาร สาเหตุที่เลี้ยงด้วยอาหารลดต้นทุน ให้ไก่หากินเองตามธรรมชาตินั้น เธอให้เหตุผลว่าอยากให้ไก่ไข่ได้กินอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนอาหารสำเร็จรูป

อาหารที่เลี้ยงและได้ผลดีอีกชนิดหนึ่งนั้นก็คือแหนแดง เธอนำมาเลี้ยงไว้ในคลองข้างสวน ทำให้แหนแดงขยายพันธุ์ออกมาได้จำนวนมาก และถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งโปรตีนชั้นดีให้กับไก่ไข่ พร้อมกับเสริมอาหารที่เหลือจากในครัวเรือนเข้ามาให้เสริมด้วย นอกจากจะช่วยลดต้นทุนในเรื่องของการผลิตไปได้มากแล้ว ของเหลือจากครัวเรือนยังเป็นการกำจัดทิ้งที่เป็นประโยชน์

ไก่ไข่ก่อนที่จะโตจนสามารถให้ไข่ได้นั้น คุณเอ๋ เล่าวิธีการเลี้ยงว่า จะหาซื้อลูกไก่ไข่ที่มีอายุ 3 อาทิตย์เข้ามาเลี้ยงภายในโรงเรือน จากนั้นดูแลไปเรื่อยๆ จนได้อายุอยู่ที่ 7-8 เดือน ไก่จะเริ่มออกไข่ออกมาให้เก็บได้ เพราะการนำลูกไก่ไข่มาเลี้ยงตั้งแต่เล็ก ช่วยให้ไก่ไข่มีความเชื่องและติดผู้เลี้ยงจนสามารถเล่นได้เหมือนสัตว์เลี้ยงสวยงามทั่วไป ซึ่งในพื้นที่ของเธอทำโฮมสเตย์เชิงเกษตร ลูกค้าที่เข้ามาพักได้สัมผัสวิถีเกษตรแบบธรรมชาติ และสามารถนำไข่ไปประกอบอาหารกินได้

ส่วนในเรื่องของโรคที่จะเกิดขึ้นกับไก่ไข่ยังไม่พบปัญหามากนัก ซึ่งไก่ที่นำมาเลี้ยงจะผ่านการทำวัคซีนในช่วงแรกเพียงครั้งเดียว เมื่อนำมาปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติจะเสริมด้วยพืชสมุนไพรให้ไก่กิน มีตั้งแต่ใบกะเพรา ฟ้าทะลายโจร จึงทำให้ไก่มีภูมิต้านทานทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ไม่เกิดการเจ็บป่วยหรือตาย แต่ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ อย่างเช่น งูหรือสุนัข มีเข้ามากินหรือกัดไก่บ้างเป็นเรื่องปกติของการเลี้ยงแบบปล่อย

ขายทั้งลูกค้าประจำ

และส่งขายทางออนไลน์

การทำตลาดเพื่อขายไก่ไข่อารมณ์ดีให้ติดตลาดและลูกค้าเชื่อมั่นเชื่อใจ คุณเอ๋ บอกว่า ในช่วงแรกเน้นนำไข่ที่เลี้ยงมาปรุงอาหารให้คุณแม่กิน เพราะรู้สึกมั่นใจในผลผลิตที่ทำเองกับมือ ต่อมาเมื่อคนรู้จักเห็นและมีการถามเข้ามาอยู่เสมอ เธอจึงได้โพสต์กิจกรรมที่ทำอยู่ภายในฟาร์มอยู่เป็นระยะ ช่วยให้ลูกค้าในสังคมออนไลน์เข้ามาติดต่อขอซื้อ พร้อมทั้งมีลูกค้าเจ้าประจำสั่งให้ไปส่งถึงหน้าบ้านมีเท่าไรซื้อทั้งหมด

จากการที่ทำตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ทำให้เวลานี้ไข่ออกมาแทบจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ เมื่อถามถึงสาเหตุว่าทำไมลูกค้าถึงสั่งซื้อให้ส่งไปทางออนไลน์ เธอให้เหตุผลว่าลูกค้าต้องการนำไปทำขนม เพราะไข่ไก่ในฟาร์มีความสดใหม่ทุกวัน จึงทำให้ลูกค้ามั่นใจในสินค้าและซื้อกันมาเป็นระยะเวลานาน โดยราคาไข่ไก่ที่ขาย 1 แผง 30 ฟอง ราคาอยู่ที่ 120-170 บาท ซึ่งสามารถขึ้นลงได้ตามกลไกตลาด

“การที่เราผลิตสินค้าด้วยใจมุ่งมั่น ว่าเรากินอะไรแล้วผลิตด้วยความใส่ใจออกมาอย่างนั้น มันยิ่งทำให้เรามีความสุขที่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ และความสุขที่ส่งออกถึงลูกค้า มันยิ่งทำให้เรามีกำลังใจด้วย เวลาเห็นลูกค้าได้กินอาหารปลอดภัยจากฝีมือเราเอง เพราะฉะนั้นในเรื่องของความใส่ใจนี่ถือว่าดีมาก ลูกค้าทุกวันนี้บางคนเชื่อใจกัน ซื้อขายกันมานานมากจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นการได้มาทำตรงนี้ สุขใจจริงได้อยู่ดูแลครอบครัวไปด้วย สำหรับใครที่อยากทำการเกษตร สิ่งแรกอยากให้คำนึงก่อนคือเรื่องเป็นอาหารที่ปลอดภัยให้กับตัวเราเอง ส่วนในรื่องของการเกิดรายได้ ถ้ามีความจริงใจลูกค้าตามมาเองแน่นอน” คุณเอ๋ บอก

ท่านใดที่สนใจในเรื่องของการเลี้ยงไก่ไข่อารมณ์ดี และต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณนรัชฐอิง ทรงกำพล หรือ คุณเอ๋ ฟาร์มตั้งอยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ที่ 7 ตำบลช่องสะแก อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 083-309-3592