ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาอาหารสดว่าเมื่อเทียบราคาสัปดาห์นี้กับสัปดาห์ก่อนหน้าพบว่า เนื้อหมู มีราคาเพิ่มขึ้นก.ก.ละ 1 บาท ปรับจาก 144 บาท/ก.ก. เป็น 145 บาท/ก.ก. เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนมีผลทำให้หมูโตช้า ขณะที่ความต้องการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนไก่ ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสภาพอากาศร้อน แต่ปริมาณผลผลิตยังเพียงพอต่อความต้องการ โดยเนื้อน่องติดสะโพก ราคา 80 บาท/ก.ก. เนื้อน่อง ราคา 83 บาท/ก.ก. เนื้ออกไก่ ราคา 79 บาท/ก.ก.

ส่วนไข่ไก่เบอร์เบอร์ 3 ราคาปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 4.04 บาท/ฟอง เป็น 4.06 บาท/ฟอง แต่ราคามีทิศทางทรงตัว และยังอยู่ในโครงสร้างที่กรมดูแล

ร.ต.จักรา กล่าวว่า ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ราคาทรงตัว อาทิ ข้าวสารถุง น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง ส่วนนมยูเอชที และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ราคาลดลงตามโปรโมชันรวมทั้งห้างให้ความร่วมมือในการตรึงราคาต่อเนื่อง

สำหรับ ปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืช มีราคาลดลงต่อเนื่องในภาพรวมราคาแม่ปุ๋ย เฉลี่ยภาคกลาง ปรับลดลง 26-50% เมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2565 โดยแม่ปุ๋ยไนโตรเจน ได้แก่ ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) และปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต (21-0-0) ราคาลดลง 50% และ 47% ตามลำดับ แม่ปุ๋ยฟอสเฟต (18-46-0) ราคาลดลง 26% และแม่ปุ๋ยโพแทสเซียม (0-0-60) ราคาลดลง 26%

“แม่ปุ๋ยยูเรียราคาจำหน่ายเคยขึ้นไปสูงกว่า 1,600 บาทต่อกระสอบ ปัจจุบันราคา 800 บาทต่อกระสอบ ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาปุ๋ยปรับลดลงมาจากราคาพลังงานในตลาดโลกที่ปรับลดลง โดยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกแม้ว่าจะยังคงผันผวนอยู่แต่ก็ปรับลดลงมาแล้ว 20-25% เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยปี 2565 นอกจากนี้ ความต้องการใช้ปุ๋ยในประเทศผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายสำคัญชะลอตัว โดยเฉพาะจีนที่ได้สิ้นสุดฤดูเพาะปลูกแล้ว และสหรัฐอเมริกาอยู่ในช่วงปลายฤดูเพาะปลูก”

ส่วนยาปราบศัตรูพืช ขณะนี้ราคาก็ได้ปรับลดลงมาแล้วเช่นกันเมื่อเทียบกับช่วงกลางปีที่แล้ว อาทิ ยาฆ่าหญ้ากลูโฟซิเนต ราคาลดลง 25% ไกลโฟเซต ราคาลดลง 19% และยาฆ่าแมลงอะบาเมกติน ราคาลดลง 28%

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะติดตามสถานการณ์ปริมาณและราคาปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืชอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยเมื่อต้นทุนนำเข้าปรับลดลงราคาจำหน่ายปลายทางก็ต้องปรับลดลงสอดคล้องกันด้วย หากเกษตรกรพบการฉวยโอกาสจำหน่ายแพงโดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือการไม่ปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน สามารถแจ้งต่อกรมการค้าภายในหรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทางสายด่วน 1569 หรือทางไลน์ @MR.DIT เจ้าหน้าที่จะไปตรวจสอบ ถ้าพบผิดจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงมาตรการรับมือราคาอาหารสดโดยเฉพาะผักในช่วงภัยแล้งว่า กรมได้หารือร่วมกับสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทยเพื่อเตรียม มาตรการดูแลราคาผักสด โดยจะใช้มาตรการเชื่อมโยงผลผลิตจากแหล่งเพาะปลูกไปยังตลาดกลาง และตลาดสดทั่วประเทศ

โดยจะติดตามปริมาณผลผลิตผักและผลไม้ที่เข้าสู่ตลาดหลัก สำคัญๆ 3 แหล่ง คือ ตลาดไทย ตลาดศรีเมือง และตลาดสีมุมเมือง หากพบว่าปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดน้อยกว่าปกติ จะดำเนินการเชื่อมโยงผลผลิตเข้าสู่ตลาดสดทันทีก่อนที่ราคาจะปรับสูงขึ้น อาทิ มะนาว ปกติ ผลผลิตจะเข้าสู่ตลาดกลาง 80 ตัน/วัน ผักชี ผลผลิตเข้าสู่ตลาด 130 ตัน/วัน หากพบว่าปริมาณเข้าสู่ตลาดต่ำกว่าระดับปกติ ก็จะเชื่อมโยงผลผลิตจากแหล่งผลิตไปยังตลาดสด